ลีโอเนล เมสซี ร่ายคาถา พา “อาร์เจนตินา” ยิงกระหน่ำ “โครเอเชีย” ลิ่วรอบชิง “ฟุตบอลโลก 2022”
ฟุตบอลโลก 2022 เหมือยถูกขีดเขียนให้ ลีโอเนล เมสซี เป็นพระเอกซะแล้ว วันอังคารที่ 13 เดือนธันวาคม 2565 ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ คู่แรก เวลา 02.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูโฟร์ยู 24 เป็นเกมที่สนามลูซาอิล ไอคอนิก สเตเดียม “อดีตแชมป์โลก 2 ยุค” ทีมชาติอาร์เจนตินา อันดับ 3 ของโลก พบกับ “รองแชมป์เก่า” ทีมชาติโครเอเชีย อันดับ 12 ของโลก
ในเกมนี้ อาร์เจนตินา ได้ประตูขึ้นนำก่อนจากจุดโทษของ ลีโอเนล เมสซี ในนาทีที่ 34 และได้อีก 2 ประตูจาก ฮูเลียน อัลวาเรซ ในนาทีที่ 39 และ 69 ส่วน โครเอเชีย ที่ทั้งยังเกมมีโอกาสยิงตรงกรอบเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นและไม่สามารถที่จะทำคะแนนได้
จบเกม ทีมชาติอาร์เจนตินา เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-0 ผ่านไปสู่รองชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปรอคอยพบกับผู้ชนะระหว่าง ฝรั่งเศส หรือ โมร็อกโก ในวันที่ 18 เดือนธันวาคม เวลา 22.00 น.ที่สนามลูซาอิล ไอคอนิก สเตเดียม ส่วนผู้แพ้จะไปพบกับ โครเอเชีย ที่สนาม คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม ในวันที่ 17 เดือนธันวาคม เวลา 22.00 น.
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
อาร์เจนตินา (ระบบ 4-3-1-2)
เอมิเลียโน มาร์ติเนซ (ผู้รักษาประตู)
นาอูเอล โมลินา, คริสเตียน โรเมโร, นิโคลัส โอตาเมนดี, นิโคลัส ตาเกลียฟิโก
เอ็นโซ เฟร์นันเดซ, เลอันโดร ปาเรเดส, อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์
โรดริโก เด ปอล
ลิโอเนล เมสซี , ฮูเลียน อัลวาเรซ
โครเอเชีย (ระบบ 4-3-3)
โดมินิค ลิวาโควิช (ผู้รักษาประตู)
โยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก กวาร์ดิโอล, บอร์นา โซซา
ลูกา โมดริช , มาร์เซโล โบรโซวิช, มาเตโอ โควาชิช
มาริโอ ปาซาลิช, อันเดรจ์ ครามาริช, อิวาน เปริซิช
ลีโอเนล เมสซี ยิงลูกที่ 11 ในฟุตบอลโลก ทุบอีก 4 สถิติตำนานพา “อาร์เจนฯ” เข้าชิง
ลิโอเนล เมสซี แปลงเป็นมนุษย์คนที่ 8 ที่ทำเกิน 10 ประตูในฟุตบอลโลก พร้อมกับยังทำอีก 2 สถิติในระดับชาติและของฟุตบอลโลก ไว้อีกด้วย
วันพุธที่ 14 เดือนธันวาคม 2565 ควันหลงหลังจากที่ทีมชาติอาร์เจนตินา เอาชนะ ทีมชาติโครเอเชีย ไปด้วยสกอร์ 3-0 ในรอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลก 2022 ในสนามลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดียม เมื่อเวลากลางคืนที่ผ่านมา
ในเกมนี้ ลีโอเนล เมสซี เปิดสกอร์แรกจากลูกจุดโทษให้ อาร์เจนตินา ขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 34 โดยที่ประตูนี้ส่งผลให้เป็นประตูที่ 11 ของเจ้าตัวในฟุตบอลโลก ทุกยุค โดยกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของอาร์เจนตินา ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแซงหน้า กาเบรียล บาติสตูตา ดาวยิงยุค 1990 ของชาติที่ทำไว้ 10 ประตูในฟุตบอลโลก และ 1 แอสซิสต์ที่ทำในเกมนี้แปลงเป็นแอสซิสต์ที่ 7 ในฟุตบอลโลก พอๆกับ ดิเอโก มาราโดนา แล้ว
นอกเหนือจากนี้ยังมีอีก 2 สถิติที่เมสซี ทำเป็น ซึ่งก็คือ เกมนี้เป็นเกมที่ 25 ที่ เมสซี ลงเล่นในฟุตบอลโลก เป็นการลงสนามมากที่สุดพอๆกับ “ซุปเปอร์แมน” โรธา มัสเทอุส มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนี ชุดแชมป์โลกปี 1990 อีกด้วย และเกมหน้าจะทำลายสถิติชั่วนิจนิรันดร์อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ประตูที่ทำกลายเป็นนักฟุตบอลคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก ที่ทำคะแนนทุกนัดในรอบน็อกเอาต์ ต่อจาก ซัลวาตอเร สกิลลาชี (อิตาลี 1990),โรแบร์โต บัจโจ (อิตาลี 1994), ฮริสโต สตอยช์คอฟ (บัลแกเลีย 1994), ดาวอร์ ซูเคอร์ (โครเอเชีย 1998), เวสลีย์ สไนเดอร์ (เนเธอร์แลนด์ 2010) และ ลิโอเนล เมสซี (อาร์เจนตินา 2022)
สำหรับ อาร์เจนตินา ไปสู่รอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลก เป็นหนที่ 2 ในรอบ 8 ปี โดยจะเล่นที่สนามลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดียม อีกทีในวันที่ 18 เดือนธันวาคมนี้ โดยจะไปรอคอยพบผู้ชนะระหว่าง ฝรั่งเศส หรือ โมร็อกโก
เมสซี่ ทำสถิติเพิ่มหลังเกมอาร์เจนตินา กระหน่ำ โครเอเชีย
ลิโอเนล เมสซี่ ทำสถิติเพิ่มเยอะมาก ในเกมที่ อาร์เจนตินา กระหน่ำ โครเอเชีย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ พร้อมผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ
ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ที่ประเทศกาตาร์ อาร์เจนตินา ชนะ โครเอเชีย รองแชมป์เก่า ไปแบบกินขาด 3-0 โดยในเกมนี้ ลิโอเนล เมสซี่ มีชื่อเปิดหัวทำคะแนนด้วยการยิงจุดโทษ นอกเหนือจากนี้ยังได้อีก 1 แอสซิสต์ จากประตูที่ 3 ที่ฮูเลียน อัลวาเรซ ทำ นอกเหนือจากนี้ตัวรุกจาก ปารีส แซงต์ แชร์ก แมง ยังคว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ โดยหลังจบ 90 นาที แข้งวัย 35 ปี สร้างสถิติอื่นๆอีกมหาศาล
สถิติ ลิโอเนล เมสซี่ ในฟุตบอลโลก
- ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นนัดที่ 25 ( ปี 2006, 2010, 2014, 2018 และ 2022) ซึ่งมากที่สุดเทียบเท่า โลธ่าร์ มัทเธอุส ตำนานแข้งทีมชาติเยอรมันตะวันตก (เยอรมนี)
- ทำประตูรวมในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ 11 ประตู แซงหน้า “บาติโกล” กาเบรียล บาติสตูต้า ดาวยิงรุ่นพี่ในการเป็นนักเตะอาร์เจนไตน์ทีทำประตูได้มากสุดในฟุตบอลโลก
- ทำสถิติแอสซิสต์มากสุดตลอดกาลของฟุตบอลโลกเทียบเท่า “เสือเตี้ย” ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่ 8 แอสซิสต์
- เป็นผู้เล่นคนแรกที่ “ทั้งยิงทั้งจ่าย” ในเกมเดียวกันจำนวน 4 นัด โดยนัดแรกทำได้ในเกมพบ เซอร์เบีย ฟุตบอลโลก 2006 ส่วน 3 นัดเป็นฟุตบอลโลกในครั้งนี้ เกมพบ เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์ และ