ท่าเรือประจวบ เปิดแชตโต้ข่าวไม่ให้เรือหลวงสุโขทัยเทียบท่า จนอับปางกลางทะเล
ท่าเรือประจวบ โต้ข่าวไม่ให้เรือหลวงสุโขทัยเทียบท่า จนเกิดโศกนาฏกรรม เปิดเผยแชตสุดท้ายกำลังพลได้เปลี่ยนใจกลับสัตหีบเอง
(22 เดือนธันวาคม65) เมื่อช่วงเวลาค่ำคืนที่ผ่านมา เรือหลวงบางระจัน 631 ได้เข้าเทียบท่า ที่ท่าเรือประจวบ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีข้นธ์ ภายหลังจากตลอดวันที่ผ่านมา ทัพเรือ ได้ออกคำสั่งให้ กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ นำยานสำรวจใต้น้ำของเรือหลวงบางระจัน ทำการบันทึกภาพใต้น้ำบริเวณเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่ระดับน้ำลึก 40 เมตร เพื่อค้นหาร่างของกำลังพล ที่อาจติดค้าง อยู่ข้างในเรือ
รวมทั้งการตรวจหารอยรั่ว ของน้ำมัน ที่บางทีอาจมีการรั่วไหล โดยได้นำข้อมูลมารายงานให้ศูนย์ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือหลวงสุโขทัย อ.บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ทราบและก็สรุปผลการปฎิบัติ เช่นเดียวกัน กับเรือหลวง และก็อากาศยาน ที่รับผิดชอบการค้นหาในพื้นที่ต่างๆอีก 11 จุด ได้รายงานผลการปฎิบัติ เพื่อสรุปข้อมูล รวมทั้งวางแผนค้นหาต่อไป
ทางด้าน นายธนาวุฒิ ธนะไชย นายท่า บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ชี้แจงต่อสื่อมวลชน กรณีกระแสข่าว ที่เป็นกระแสดราม่า ไม่ให้เรือหลวงสุโขทัยเข้าเทียบท่า กระทั่งเกิดโศกนาฏกรรมอับปางกลางทะเลนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด มีสื่อบางสำนัก นำข่าวไปเผยแพร่กล่าวว่า เรือหลวงสุโขทัย ไม่สามารถใช้บริการท่าเรือประจวบได้ ท่าเรือไม่ให้เข้าเทียบท่า นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเข้าใจผิด และก็เกิดความเสียหาย กับบริษัทเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ข้อเท็จจริงคือ ทางบริษัทได้รับการสื่อสาร ในตอนเช้าของวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อขอนำเรือเข้าเทียบท่า ซึ่งบริษัทพร้อมสนับสนุน แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศในวันดังกล่าว คลื่นลมแรงจัดมาก ทางเรือหลวงสุโขทัย ได้มีการติดต่อทางช่องทางไลน์ เพื่อขอให้บริษัทถ่ายคลิปวิดีโอสภาพคลื่นลม ที่รอบๆท่าเรือ เป็นคลิปสั้นๆ เพื่อให้ทางเรือหลวงสุโขทัย ได้ตัดสินใจ ทางบริษัทมิได้เป็นฝ่ายไม่ให้เข้าท่า แต่ว่าให้ทางเรือหลวงสุโขทัย เป็นฝ่ายตัดสินใจเอง ว่าจะเข้าหรือไม่เข้า ซึ่งในตอนนั้น เรือหลวงสุโขทัยยังไม่ถึงท่าเรือประจวบ ยังมิได้เข้าท่าแต่อย่างใด เป็นการคุยกันระหว่างทางเรือ กับเจ้าหน้าที่ ที่แผนกเพียงแค่นั้น

เมื่อทาง เรือหลวงสุโขทัย ได้ดูคลิป แล้วก็โทรไลน์สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมแล้ว ก็เลยตัดสินใจ ไม่เข้าท่า
แต่จะเดินทางกลับสัตหีบแทน โดยมีหลักฐานเป็นข้อความในแอปพลิเคชั่นไลน์ แต่ว่ากลายเป็นสื่อบางสำนัก นำมาโจมตีว่าบริษัท ว่าไม่ให้เข้าท่า จนกระทั่งเกิดเหตุเรือหลวงอับปางดังกล่าว ก็เลยต้องการชี้แจงข้อเท็จจริง ให้ทราบเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
เวลา 20.30 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2565 ที่ศูนย์ประสานช่วยเหลือผู้ประสบภัย ร.ล.สุโขทัย ที่ท่าเรือประจวบ นายธนาวุฒิ ธนะไชย หัวหน้าแผนกบริการท่า (นายท่า) ท่าเรือประจวบได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า ท่าเรือประจวบ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการขอเข้าเทียบท่าของเรือหลวงสุโขทัย ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อออนไลน์ อ้างแหล่งข่าวผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตจากกรณีเรือหลวงสุโขทัยล่ม (ร.ท.สายัณต์ กิจเกียจ) ระบุว่า “ผู้การขอเข้าจอดที่ท่าเรือบางสะพาน แต่ไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องแล่นเรือต่อ ผนังเรือเริ่มฉีกขาดมากขึ้นจากการที่โดนคลื่น มวลน้ำจำนวนมากเข้าตัวเรือ…” โพสต์ดังกล่าวทำให้เกิดการแสดงความเห็นเชิงลบต่อ บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด และกลุ่มสหวิริยานั้น
บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ขอชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าว เป็นข้อความเท็จ และก็ความคิดเห็นจากโพสต์ดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชื่อเสียงของ บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ความจริงในกรณีนี้คือ แผนกบริการท่าฯ ของบริษัทได้รับการประสานจากต้นเรือ ของเรือหลวงสุโขทัย ขอให้ถ่ายภาพสภาพคลื่นลมในท่าเรือไปให้ ทันทีที่ได้รับการประสานงาน และพูดคุยทางโทรศัพท์ผ่านทางไลน์ เจ้าหน้าที่รีบประสาน และตอบกลับไป โดยยินดีที่จะให้เข้ามาถ่ายภาพตามคำร้องขอ อย่างไรก็ดี เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่จากเรือหลวงสุโขทัย ได้แจ้งกลับมาว่า ไม่เข้ามาที่ท่าเรือประจวบแล้ว (ตามภาพไลน์ที่ปรากฏ) และเจ้าหน้าที่ได้พิมพ์ขอบคุณกับท่าเรือประจวบด้วย ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ณ วันที่ 18 เดือนธันวาคม 2565 คือ
เวลา 09.50 น.
น.ท.จตุพร ทัพเรือภาค 1 ขอนำร.ล.กระบุรี ร.ล.สุโขทัย เข้าเทียบท่า เพื่อส่งทหารจำนวนหนึ่งขึ้นรถบัสขนส่งไป จ.ชุมพร เนื่องจากบริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด มีท่าเรือรองรับ
เวลา 11.53 น.
ผู้บัญชาการ ร.ล. กระบุรี แจ้งขอเข้าท่าเทียบเรือ
เวลา 12.11 น.
ต้นเรือ ร.ล.สุโขทัยติดต่อแผนกบริการท่าฯ ขอให้ถ่ายภาพสภาพคลื่นลมในท่าเรือไปให้ เจ้าหน้าที่แผนกบริการท่าได้ดำเนินการถ่ายคลิปวิดีโอสั้นส่งไปให้ รวมถึงแนะนำให้เรือทิ้งสมอในพื้นที่จอดเรือ (Basin) ได้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ต้นเรือได้รับคลิปวิดีโอและพิจารณาสภาพคลื่นลมจากวิดีโอแล้ว ได้แจ้งกลับมายังเจ้าหน้าที่บริการท่าว่า ไม่ขอเข้าเทียบและจะเดินทางกลับไปยังสัตหีบ (โปรดดูภาพประกอบ)
เวลา 16.00 น.
ร.ล.กระบุรีแจ้งทางวิทยุขอเข้าเทียบท่า และเทียบท่าเสร็จสิ้นเวลา 17.00 น.
เวลา 16.46 น.
ห.น.แผนกบริการท่าฯ ได้รับแจ้งจาก ผู้บังคับการเรือ ร.ล.สุโขทัย ขอนำเรือกลับเข้าเทียบท่า เนื่องจากน้ำเข้าเรือ เครื่องยนต์มีปัญหา หลังจากนั้นใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ร.ล.สุโขทัยได้แจ้งขอรับการสนับสนุนส่งเรือลากจูง (TUG) ทันทีที่ได้รับแจ้งท่าเรือประจวบได้ประสานเรือลากจูง (TUG) พร้อมให้การสนับสนุน

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอให้ผู้ที่แชร์ข้อความดังกล่าว ลบข้อความอันเป็นเท็จนั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์โดยทันที ท่าเรือประจวบ
ไม่งั้นบริษัทฯ จะดำเนินการตามกฎหมาย บริษัทท่าเรือประจวบ จำกัด ขอยืนยันในเจตนารมณ์ ในการให้ความสำคัญกับการสนับสนุน แล้วก็ช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือภัยพิบัติสำคัญเพื่อความปลอดภัยทางทะเล ดังแสดงให้เห็นจากความช่วยเหลือ รวมทั้งสนับสนุนกรณีเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติสำคัญที่ผ่านมา อาทิ
สนับสนุนท่าเรือให้เป็นพื้นที่ปฏิบัติการความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือภัยพิบัติสำคัญเพื่อความปลอดภัยทางทะเลมาแล้วหลายคราว ได้แก่ พายุชุมพร
สนับสนุนกองทัพเรือ นำเรือหลวงสงขลา เรือหลวงบางระจัน และก็เรือตรวจการณ์ ต.114 กองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ เข้าจอดเทียบท่า สำหรับในการออกปฏิบัติราชการสนับสนุน การตรวจสอบคราบน้ำมัน เหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล ป.อันดามัน 2 อับปาง โดยภายในเรือมีน้ำมันอยู่ราวๆ 5 แสนลิตร ระยะห่างจากปากน้ำชุมพร ราวๆ 24 ไมล์ทะเล
สนับสนุนกองทัพเรือ จัดเรือ ต.81 ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น