"กุนซือ ไบรจ์ตัน" สุดแฮปปี้ เขี่ย "ลิเวอร์พูล" ร่วงเอฟเอคัพ-ป้อง "ฟาบินโญ" แม้เสียบโหดลูกทีม

โรแบร์โต เด แซร์บี ที่ปรึกษา ไบรจ์ตัน ออกมาเปิดใจหลังพาทีม เปิดบ้านชนะ ลิเวอร์พูล เข้ารอบ 16 ทีม เอฟเอคัพ

ผลการแข่งขัน: ไบรจ์ตันชนะลิเวอร์พูล 2-1

เด แซร์บี กล่าวว่า “พวกเรามีความสุขกับผลการแข่งขัน มันเป็นเกมที่ยากมาก เพราะลิเวอร์พูลก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขาแข็งแกร่งมากในสนาม แต่เราสามารถเล่นได้ดีกว่านี้อีก เราทำได้ และเราต้องปรับปรุงต่อไป”

ส่วนจังหวะที่ อีวาน เฟอร์กูสัน ผู้เล่นไบรจ์ตัน โดน ฟาบินโญ ทำฟาวล์อย่างหนักหน่วง จนทำให้แฟนบอลมองว่า ฟาบินโญ ควรโดนใบแดงมากกว่าใบเหลือง ซึ่ง เด แซร์บี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมคิดว่า ฟาบินโญ เป็นนักเตะที่มีคุณภาพ อุบัติเหตุแบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้ในสนาม”

ไบรจ์ตัน แซงดับ ลิเวอร์พูล

มิโตมะ ซัดเปรี้ยง “ไบรจ์ตัน” แซงดับ “ลิเวอร์พูล” เข้ารอบ 16 ทีม เอฟเอคัพ

การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 4 ประจำวันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค. 66 “นกนางนวล” ไบรจ์ตันแอนด์ โฮฟ อัลเบียน เปิดสนาม ดิ เอเม็กซ์ รับการมาเยือนของ “หงส์แดง”

เปิดตัวครึ่งแรกมา 3 นาที ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงในเขตโทษ แต่ผู้เล่นไบรจ์ตันสกัดออกมาจากเส้นได้แบบหวุดหวิด

ต่อมา 4 นาที ลิเวอร์พูลได้ลุ้นอีกรอบ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ยิงด้วยขวา จากนอกกรอบ แต่เบาเกินไป เจสัน สตีล นายด่านไบรจ์ตัน รับสบาย

แล้วนาทีที่ 14 ไบรจ์ตันน่าขึ้นนำสุดๆ อีวาน เฟอร์กูสัน ได้ยิงในเขตโทษ บอลผ่าน อลิสสัน เบคเกอร์ ผู้เฝ้าประตูหงส์แดง ไปแล้ว แต่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ สกัดออกมาจากเส้นได้หวุดหวิด

นาทีที่ 20 ไบรจ์ตันมาอีกแล้ว โอกาสนี้เป็น คาโอรุ มิโตมะ จิ้มหลบ โจ โกเมซ เข้าจุดโทษ ก่อนยิงด้วยซ้าย บอลแฉลบ อิบราฮิมา โกนาเต นิดๆเข้ามือ อลิสสัน เบคเกอร์

นาทีที่ 24 ลิเวอร์พูล แทบขึ้นนำ จากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ส่งบอลทะลุให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยว ก่อนยิงหลุดเสาไกลอย่างน่าเหลือเชื่อ

ถึงนาทีที่ 31 ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ นาบี เกอิตา หวดบอลขึ้นมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลุยขึ้นมาก่อนไหลเข้าจุดโทษให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ซัดด้วยขวาทิ่มเสาไกลเข้าไป

แต่นาทีที่ 40 ไบรจ์ตันตามตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะที่ ทาริค แลมพ์ตีย์ ยิงไกลเต็มข้อ ลูอิส ดังค์ สะกิดบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไป

จบครึ่งแรก ไบรจ์ตันเสมอลิเวอร์พูล อยู่ 1-1

มิโตมะ

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 51 ไบรจ์ตันได้ฟรีคิกระยะออกจะไกล ลูอิส ดังค์ วิ่งมายิงบอลพุ่งผ่านคานออกไป

แล้วหลังจากนั้นนาทีที่ 71 ไบรจ์ตัน เกือบแซงนำ จากจังหวะที่ คาโอรุ มิโตมะ ดีดไซด์ก้อยจากฝั่งซ้ายเข้าจุดโทษ ซอลลี มาร์ช โฉบมายิงไปติดเซฟ อลิสสัน เบคเกอร์ เด้งกลับมาโดน มาร์ช โด่งออกหลังไปเล็กน้อย

ถึงนาทีที่ 80 ไบรต์ตัน เกือบได้อีกแล้ว อีวาน เฟอร์กูสัน ตะบันด้วยขวาในเขตโทษ แต่ อิบราฮิมา โกนาเต ทิ้งตัวบล็อกไว้ได้ทัน

เข้าสู่ตอนทดเจ็บ นาทีที่ 90 + 2 ไบรจ์ตัน ขึ้นนำ 2-1 จากการยิงของ คาโอรุ มิโตมะ

จบเกม ไบรจ์ตันชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 เข้ารอบ 16 ทีม ถัดไป

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม มีดังนี้

ไบรจ์ตัน

เจสัน สตีล (ผู้รักษาประตู) ; ทาริค แลมพ์ตีย์, อดัม เว็บสเตอร์, ลูอิส ดังค์, เปร์วิส เอสตูปินญัน ; ปาสกาล โกรสส์, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ; ซอลลี มาร์ช, แดนนี เวลเบค, คาโอรุ มิโตมะ ; อีวาน เฟอร์กูสัน

ลิเวอร์พูล

อลิสสัน เบคเกอร์ (ผู้รักษาประตู) ; เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; นาบี เกอิตา, สเตฟาน บายเชติช, ติอาโก อัลคันทารา ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี กัคโป, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์